Space for Child
เพราะเด็กคืออนาคต...

“Made for life, Made for better”

“เพราะเด็กคืออนาคต เด็กจึงต้องมีพื้นที่และโอกาสที่เท่าเทียม เพื่อสร้างสรรค์สังคมในอนาคต” คือสิ่งที่แสนสิริให้ความสำคัญและไม่เคยมองข้าม

คุณเคยตั้งคำถามอะไรในใจเวลาเห็นเด็กๆ ที่เป็นลูกหลานคนงานก่อสร้างวิ่งเล่นอยู่ในเขตพื้นที่ของโครงการก่อสร้างไหม

“ทำไมเด็กๆ เหล่านี้ถึงไม่มีโอกาสได้ไปเรียนหนังสือเหมือนเด็กคนอื่นๆ นะ”

“แล้วพวกเขาจะมีโอกาสมีอนาคตที่สดใสได้ไหม”

“เด็กจำนวนอีกมากมายเท่าไหร่กัน ที่ต้องเติบโตในเขตพื้นที่ไม่ปลอดภัยอย่างเขตก่อสร้าง”

“เราสามารถทำอะไรเพื่อให้พวกเขามีพื้นที่เล่นและเรียนรู้ที่เหมาะสมแบบเด็กคนอื่นๆ ได้หรือไม่”

นี่คือคือคำถามที่แสนสิริ ตั้งคำถามกับตัวเองอยู่เสมอ ว่าเราจะมีส่วนร่วม ในการสร้างชีวิตที่ดีกว่าให้เด็กๆ เหล่านี้ได้อย่างไร

ในปี 2020 แสนสิริจึงได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบของ Good Space หรือพื้นที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก พร้อมยกระดับเป็นนโยบายร่วมกับคู่ค้า เพื่อมาตรฐานคุณภาพชีวิตที่ดีของเด็กในไซต์ก่อสร้างให้ได้รับความเท่าเทียมกัน

จาก “เรา” สู่ “โลก”

จากความสำเร็จของโครงการ “Good Place” และ “Good Space”ได้จุดประกายในการทำงานเพื่อเด็กของ “แสนสิริ” ให้ขยายออกไปอย่างกว้างขวาง ต่อเนื่อง และถักทอเป็นเครือข่าย สร้างพันธมิตรจากพื้นที่ก่อสร้างในโครงการของแสนสิริ พร้อมกับสานต่อแนวความคิดของเราไปสู่เครือข่ายและชุมชนจนกลายเป็น “Good Community” ผ่านแนวคิดหลักในเรื่องการพัฒนาเด็กและเยาวชนในระดับชุมชน ที่ให้ความสำคัญกับ 3 เรื่องหลักคือ การศึกษา กีฬา และสุขภาพ

“ถ้าเด็กๆ ชอบเล่นฟุตบอล เราน่าจะมีส่วนช่วยสร้างโอกาสเพิ่มทักษะให้พวกเขาได้”

แสนสิริ อะคาเดมี่ (Sansiri Academy)” จึงจุดเริ่มต้นของเราที่ต้องการฝึกทักษะการเล่นฟุตบอลให้กับเด็กๆ ที่อยู่ในชุมชนโดยรอบพื้นที่โครงการของ “แสนสิริ” แต่เราไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้น เพราะเราได้กระจายโอกาสในการฝึกฝนทักษะการเล่นฟุตบอลนี้ไปสู่กลุ่มเยาวชนที่สนใจด้วย จากความเชื่อมั่นที่ว่า ฟุตบอลไม่ได้เป็นแค่เกมส์แต่เป็นกีฬาที่ฝึกวินัย ทักษะ เต็มไปด้วยมิตรภาพและการเรียนรู้ในเรื่องราวของการใช้ชีวิต

และเพื่อให้ แสนสิริ อะคาเดมี่ เป็นได้มากกว่าโครงการฝึกสอนทักษะฟุตบอลธรรมดาๆ เราได้ทำงานร่วมกับ King Power จัดโครงการ Sansiri Academy x Fox Hunt Football Clinic ที่หยิบยื่นโอกาสให้เด็กๆ ได้ฝึกทักษะในระดับที่จริงจังและเข้มข้นขึ้นโดยโค้ชที่ส่งตรงจากสโมสรเลสเตอร์และทีม Scout และเพื่อสร้างภาพความฝันของเด็กๆ ให้เป็นความจริงที่มากยิ่งขึ้น เรามีการจัดกิจกรรมสร้างแรงบันดาลใจ ผ่านการพาไปดูบอลอย่างใกล้ชิดติดขอบสนามที่สนาม SCG เมืองทอง หรือแม้กระทั่งการได้ร่วมเล่นฟุตบอลปะทะแข้งกับนักฟุตบอลในดวงใจอย่างเมสซี่เจที่เพิ่งจัดไปเมื่อม.ค.ที่ผ่านมา

และถ้าถามถึงหนึ่งในความสำเร็จของ แสนสิริ อะคาเดมี่ ที่เราภูมิใจนั้น ก็คือการได้มีส่วนในการสานฝันเยาวชนที่ต่อมากลายเป็นนักฟุตบอลชื่อดังในระดับประเทศและก้าวสู่การเป็นนักเตะระดับเอเชีย อย่างเจ-ชนาธิป สรงกระสินธ์ และสำหรับอีกคนซึ่งไม่พูดถึงไม่ได้เพราะกำลังมาแรงคือ บอมบ์-ชินภัทร ลีเอาะ ที่ขัดเกลาฝีเท้าตนเองจากการเป็นกัปตันทีมโรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรีเกือบทุกชุด ก้าวสู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพอย่างเต็มตัวและผ่านการลงเล่นฟุตบอลไทยลีก ครบ 100นัดกับสโมสรเชียงราย ยูไนเต็ด ต่อด้วยการคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของประเทศไทยเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ก้าวขึ้นเป็นกัปตันทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ครั้งที่ผ่านมา

ซึ่งก่อนหน้านี้บอมบ์ก็เคยคว้าแชมป์ซีเกมส์มาแล้ว 1ครั้ง และทีมชาติไทยชุด U-23ชิงแชมป์เอเซีย ล่าสุดในปีนี้บอมบ์ยังได้มีโอกาสลงเล่นในรายการ AFC Champions League 2020 ถือว่าเป็นฟุตบอลชิงแชมป์ทวีปเอเชียระดับสโมสรที่ใหญ่ที่สุด เปรียบเสมือนฟุตบอล UEFA Champions League ของยุโรป จากกัปตันทีมบอลนักเรียนสู่การเป็นกัปตันทีมชาติไทยชุดอายุไม่เกิน 23ปี ทำให้เราหวังจะเห็นบอมบ์ก้าวไปสู่การเป็นกัปตันทีมชาติไทยชุดใหญ่

และด้วยความตั้งใจทำให้ แสนสิริ อะคาเดมี่ กลายเป็นโครงการที่มอบโอกาสให้กับเด็กและเยาวชนได้เข้าร่วมแล้วกว่า 8,000 คน ซึ่งเมื่อรวมแรงส่งเสริมจากเราบวกกับแรงผลักดันของตัวเองที่จะฝึกฝนอย่างมีวินัยและพัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่อง ทำให้อนาคตของหลายคนพุ่งไปไกลจนเป็นถึงนักฟุตบอลทีมชาติ ไม่ว่าจะเป็น “เจ-ชนาธิป สรงกระสินธ์” “บอมบ์-ชินภัทร ลีเอาะ” “พีม-พัชรพล อินทนี” นักฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยอย่าง “แอมป์-ณัฐวดี ปร่ำนาค” รวมไปถึง“โบ๊ท-อนนท์ สมากร”,“กัน-ธนธรณ์ น้ำจันทร์. สองหนุ่มจากโครงการ Fox Hunt ที่ไปฝึกฟุตบอลอยู่ที่ประเทศอังกฤษกับสโมสรระดับแชมป์พรีเมียร์ลีก อย่างเลสเตอร์ ซิติ้ ซึ่งแน่นอนว่าความสำเร็จของเราจะไม่หยุดแค่นี้ เพราะยังมีน้องๆ ที่กำลังพัฒนาตนเองให้ไปอยู่ระดับเดียวกับรุ่นพี่โครงการอีกมากมาย

จากการส่งเสริมกีฬาสู่การมีส่วนร่วมพัฒนาชุมชน

ในปีที่ผ่านมาเรามีโครงการที่มีเป้าหมายสำคัญคือการส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่าง “โซเชียลเชนจ์ คลับ (Social Change Club)” ที่จัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กๆ และเยาวชนเข้ามามีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมเพื่อการพัฒนาตัวเองและพัฒนาชุมชน อย่าง SAN Green, SAN ASA, SAN Kids, SAN Service, และ Sansiri Backyard ที่เปลี่ยนพื้นที่รอการพัฒนาเป็นแปลงเกษตรอินทรีย์

สำหรับ Sansiri Backyard เราได้เชิญน้องๆ นักเรียนของโรงเรียนสังกัดกทม. บริเวณใกล้เคียง Sansiri Backyard T77  และโรงเรียนรัฐบาลบริเวณใกล้เคียง Sansiri Backyard หัวหิน มาเรียนรู้วิธีการปลูกผักออแกนิกจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งน้องๆ มีโอกาสลงมือปลูกและเก็บผักด้วยตนเอง โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ

ซึ่งโครงการนี้เราก็ตั้งใจที่จะเปิดโอกาสให้น้องๆ จากโรงเรียนในกทม. ที่ไม่มีพื้นที่เพียงพอในการเรียนรู้วิชาการงานการเกษตรจากแปลงเกษตรของจริง ได้มาลองลงมือปลูกในแปลงจริง เก็บไข่ในเล้าไก่เลี้ยงที่เต็มไปด้วยแม่ไก่อ้วนๆ อารมณ์ดี ให้อาหารปลาในบ่อที่ Sansiri Backyard T77 จึงเป็นประสบการณ์ใหม่ที่น่าตื่นเต้นของเด็กๆมากๆ โดยกิจกรรมนี้จะมีตลอดทั้งปีในช่วงเปิดเทอมของโรงเรียน

และเรายังมี Underline 77 โครงการที่แสนสิริกับพันธมิตรร่วมมือกันปรับภูมิทัศน์พื้นที่สนามกีฬาใต้ทางด่วน บริเวณเส้นทางเชื่อมระหว่าง T77 และชุมชนในซอยปรีดีพนมยงค์ (ลานกีฬาแสงทิพย์ พื้นที่ภายใต้การดูแลของสำนักงานเขตวัฒนา) ด้วยการลงพื้นที่สำรวจความต้องการของชุมชน ปัญหาที่มี ฟังก์ชั่นการใช้งานของชุมชนและสำนักงานเขตวัฒนา แล้วนำข้อมูลมาออกแบบพัฒนาพื้นที่ที่ตอบโจทย์ความต้องการของชุมชนอย่างแท้จริง จากนั้นจัดกิจกรรมชุมชนสัมพันธ์โดยจัดให้พนักงาน ลูกบ้าน และชุมชนใกล้เคียงได้มีส่วนร่วมในการระบายสีตกแต่งสนามนี้ด้วยกัน และเปิดสนามให้ประชาชนได้เข้ามาใช้พื้นที่ได้ตามปกติเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2563

เพราะ “เด็ก” คือ “อนาคต”

แสนสิริได้ทำกิจกรรมโดยร่วมมือกับองค์การยูนิเซฟ ในปีนี้แสนสิริมุ่งเน้นความมีส่วนร่วมกับพนักงานด้วยในการสร้างความตระหนักในแคมเปญยุติความรุนแรงต่อเด็กภายใต้ชื่อแคมเปญ SIRIHERO ปลุกความเป็นฮีโร่ ยุติความรุนแรงต่อเด็ก เพื่อสังคมที่ไร้ความรุนแรงเพื่อตอกย้ำในฐานะที่แสนสิริเป็นองค์กรที่เป็นมิตรกับเด็กมายาวนานกว่า 14 ปี

จากความตั้งใจจริงของเราทำให้เราได้รับเกียรติจากองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย ให้เราเป็นพันธมิตรกับองค์การยูนิเซฟ หรือ UNICEF’s First Selected Partner in Thailand

เราต้องการให้เด็กทุกคนได้มีโอกาสใช้ชีวิตอย่างมีความสุขเหมือนลูกๆ ของเรา จากพื้นที่เล็กๆ ในพื้นที่ก่อสร้างของเรา สู่การส่งมอบความสุขไปสู่ชุมชนและเด็กด้อยโอกาสทั่วโลก เป็นปรัชญา ที่ “แสนสิริ” ใช้ในการขับเคลื่อนองค์กรในกิจกรรมเพื่อสังคม

เราจะก้าวต่อไปเพื่อสร้างอนาคตที่เท่าเทียมกันสำหรับเด็กๆ ทุกคนภายใต้ปรัชญา “Good Place, Good Space, Good Community, and Good Global Citizen for all”

แล้วเราจะเติบโตไปพร้อมๆ กับ “อนาคต” ที่ดี……

Related Articles

10 ปีของการเดินทางเพื่อรากฐานที่ยั่งยืนของเด็กๆ ทุกคน

สิทธิและชีวิตที่ดีของเด็กๆ ทุกคน…คืออีกสิ่งหนึ่งที่เราไม่อาจมองข้าม…คืออีกสิ่งหนึ่งที่ผู้ใหญ่เช่นเราควรปกป้อง ดูแล ผลักดัน และสนับสนุน…คืออีกสิ่งหนึ่งที่เราต้องสร้างและเติมเต็ม เพื่อให้ทุกๆ ชีวิตเหล่านั้นได้เติบโตอย่างมั่นคง สมบูรณ์ และยั่งยืน ในประเทศไทย ตลอดชีวิตของเรานั้นมีหลายครั้งที่เคยได้เห็นอีกชีวิตเล็กๆ ที่ไม่มีโอกาสเติบโตอย่างมั่นคงหรือแม้แต่ใช้ชีวิตได้อย่างไร้กังวล เราได้เห็นเด็กๆ ตัวน้อยถูกใช้แรงงานอย่างไม่เป็นธรรม เราได้เห็นโรคขาดสารไอโอดีนในเด็ก (Iodine Deficiency Disorder หรือ IDD)